Hot Topic!

บุกร้องนายกฯ จี้ DSI คืนทรัพย์สิน

โดย ACT โพสเมื่อ Jul 14,2017

- - สำนักข่าว สยามรัฐ วันที่ 14/06/60 - -

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.ค.60 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประกิต พิลังกาสา ประธานคณะกรรมการผู้บริหารแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น(สคจ.)ได้ยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ พล.อ. ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีผ่าน นายออมสินชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการดำเนินการแผนฟื้นฟู สคจ. เนื่องจากมีอุปสรรคเกี่ยวกับการระดมเงิน และการติดตามทรัพย์สินตลอดจนการขายทรัพย์สินที่จะนำมาชำระหนี้ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง
          
โดยนายประกิต เปิดเผยว่า สหกรณ์ฯ คลองจั่นมีทรัพย์สินของตนเองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ รวมทั้งทรัพย์สินของจำเลยคือ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหาร สคจ.ที่ยักยอกทรัพย์สหกรณ์ฯ และพวก ที่สหกรณ์ฯดำเนินการติดตาม ยึดและยื่นข้อบังคับคดีไว้จำนวนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทที่จะนำออกขายเพื่อได้เงินมาชำระหนี้และที่ผ่านมานับแต่ปี 2559 สหกรณ์ฯคลองจั่นได้ติดตามเงินจากคดีความที่ฟ้องร้องผู้กระทำผิดจนได้เงินกลับคืนมาชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ไปแล้วประมาณ1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในสิ้นปีนี้ สคจ.อาจจะชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ไม่ได้ เนื่องจากติดปัญหาเกี่ยวกับการติดตามทรัพย์และการนำทรัพย์สินของสหกรณ์ที่ศาลตัดสินให้สหกรณ์ชนะคดีติดตามทรัพย์คืนจากนายศุภชัย และพวก โดยมีคำสั่งให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินและทรัพย์สินคืนให้สหกรณ์ฯ จำนวน 3,811 ล้านบาท แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อายัดไว้เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับคดีฟอกเงิน ซึ่งสหกรณ์ฯได้มีหนังสือแจ้งดีเอสไอหลายฉบับ ขอให้เพิกถอนการอายัดและคืนให้แก่สหกรณ์ฯ เพราะต้องนำออกขายชำระหนี้แก่เจ้าหนี้แต่ไม่เคยได้รับคำตอบชี้แจงจากดีเอสไอ
          
นอกจากนี้ สหกรณ์ฯได้ดำเนินการประกาศขายทรัพย์สิน จำนวน 2 แปลง ในราคาประมาณ 350 ล้านบาทซึ่งสูงกว่าราคาประเมินของบริษัทประเมินราคาอิสระ ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นประกอบต่อศาลฯ แล้วว่าเห็นชอบให้ขายที่ดินได้ เพื่อนำเงินจำนวนนี้มาชำระหนี้ แต่เนื่องจากมีเจ้าหนี้ 1 รายคัดค้านศาลฯ จึงมีคำสั่งให้เปลี่ยนวิธีการขายโดยให้กรมบังคับคดีนำไปขายทอดตลาดแทน ซึ่งการขายทอดตลาดจะต้องใช้เวลากว่า 1 ปี และอาจขายได้ต่ำกว่าราคาตลาด ส่งผลให้เกิดความเสียหายเดือดร้อนตามมาแก่เจ้าหนี้ที่รอรับการเยียวยาอย่างรุนแรง
          
ประธาน สคจ.กล่าวด้วยว่า สหกรณ์ฯ ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อจัดหาแหล่งเงินทุนฟื้นฟูกิจการปัจจุบันได้ดำเนินการคืบหน้าไปมากโดยนายกฯ มีนโยบายให้ขบวนการสหกรณ์ฯ ต้องช่วยเหลือกันเองด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงเกษตรฯและกระทรวงการคลัง จึงได้ประชุมหารือร่วมกันกับสหกรณ์เจ้าหนี้และสหกรณ์ฯ คลองจั่น พิจารณาแนวทางจัดทำโครงการบัญชีร่วมเพื่อรักษาเสถียรภาพระบบสหกรณ์ โดยมีหลักการระดมเงินส่วนต่างของดอกเบี้ยที่เกิดจากการลงทุนของสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการนำฝากสะสมไว้ใน "บัญชีร่วมฯ"ให้มีจำนวนเงินมากพอที่จะสนับสนุนแก้ไขปัญหาของสหกรณ์ที่ขาดสภาพคล่องทางการเงินทั้งระบบโดยไม่จำกัดเฉพาะสหกรณ์ฯ คลองจั่นเท่านั้นเสมือนหนึ่งเป็นโครงการนำร่องสู่การตั้งกองทุนสหกรณ์ต่อไป
          
"ขณะนี้มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการฯ โดยเสนอวงเงินที่จะขอกู้ยืมจากธนาคารของรัฐแล้วกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนในกองทุนต่างๆของรัฐหรือให้กู้ยืมต่อแก่สมาชิก คาดว่าผลตอบแทนที่เป็นส่วนต่างของดอกเบี้ยที่จ่ายคืนธนาคารผู้ให้กู้จะมีอัตราประมาณร้อยละ 2 ซึ่งจะมีเงินเข้าบัญชีร่วมฯ ประมาณปีละ 600 ล้านบาท อย่างไรก็ตามโครงการฯ นี้ยังต้องรอความชัดเจนของนโยบายผู้บริหารระดับสูงของแต่ละกระทรวงในที่สุดเสียก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้ความเห็นชอบต่อโครงการฯ นี้"นายประกิต กล่าว
          
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรม ทำเนียบรัฐบาลนายพิษณุ ชีวะสิทธิ์ สมาชิกสหกรณ์ฯคลองจั่น พร้อมสมาชิก ได้มายื่นหนังสือร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรม โดยมีนายพันศักดิ์ เจริญ ผอ.ส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน ศูนย์ดำรงธรรมเป็นผู้รับเรื่อง เพื่อขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วย
          
ด้าน น.ส.อุ้ม ธนาวงค์ ข้าราชการบำนาญ อายุ 82 ปี กล่าวว่า ตนได้นำเงินออม และทรัพย์สินมรดกมาลงทุนกับสหกรณ์ฯคลองจั่น กว่า 8 ล้านบาท เพราะต้องการนำเงินปันผลมาใช้ในบั้นปลายชีวิต แต่ต้องมาประสบปัญหาอดีตผู้บริหารทุจริต ตนอายุมากแล้วมีปัญหาด้านสุขภาพต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง และต้องได้รับการผ่าตัด ขณะนี้ยังไม่มีเงินที่จะรักษาตัวเอง จึงขอวิงวอนรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ เมตตาช่วยเหลือพวกตนที่เดือดร้อนด้วย
          
เช่นเดียวกับ นายสวัสดิ์ ใจอารีย์อดีตข้าราชการกรมทางหลวง วัย 90 ปี ที่ต้องนั่งรถวีลแชร์มาร้องเรียนขอความอนุเคราะห์กับรัฐบาล กล่าวว่าตนชราภาพมากแล้ว ทุกวันนี้ต้องเป็นคนพิการไม่สามารถเดินเหินได้ตามปกติ นำเงินบำนาญมาลงทุนกับสหกรณ์ฯ เพราะเห็นว่าเป็นการออมที่ปลอดภัย แต่ก็โชคร้ายต้องมาเจอกับปัญหาการทุจริตของอดีต คกก.คลองจั่น วันนี้ตนและสมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากขอให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เร่งอนุมัติเงินกู้ เพื่อให้การดำเนินการแผนฟื้นฟูเดินหน้าต่อไปด้วย